Monday 28 September 2015

ชวนเที่ยวงาน ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ 2558 จ.เพชรบูรณ์

ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ 2558
ภายในงาน เชิญชมขบวนแห่พระพุทธมหาธรรมราชาทางบกและทางน้ำ พิธีอุ้มพระดำน้ำ การแสดง แสง เสียง การแข่งขันพายเรือทวนน้ำ การประกวดจัดโต๊ะหมู่บูชา และเทศกาลอาหารอร่อยจังหวัดเพชรบูรณ์
สอบถามเพิ่มเติม :
ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์หลังเก่า บริเวณหน้าวัดไตรภูมิ วัดโบสถ์ชนะมาร เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ โทร. 0-5671-1007 หรือ ททท. สำนักงานพิษณุโลก โทร. 0-5525-2742-3, 0-5525-9907


ที่มา : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
--------------------------------

http://happytripbooking.com

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

>>ที่พักปลอดภัย เลือกได้ตามสไตล์คุณ”http://happytripbooking.com

>>จองก่อน จ่ายทีหลัง แถมยกเลิกฟรีเมื่อไม่พัก

>>ที่พักกว่า 687,664 แห่ง ใน 214 ประเทศ ทั้งโรงแรม เก็ทเฮ้าท์ และอื่น ๆ อีกมากมาย

>>สมัครฟรี และจัดการจองออนไลน์ได้ง่ายด้วยตัวคุณเอง

สถานทูตจีน แจ้งย้ายที่ทำการและปรับอัตราค่าธรรมเนียม

สถานทูตจีน
– สถานที่ทำการแห่งใหม่ ตั้งอยู่เลขที่ 1550 อาคารธนภูมิ ชั้น 5 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
– อัตราค่าธรรมเนียบคำขอทำวีซ่า 1,500 บาท/เล่ม  เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2558 เป็นต้นไป
– วันเปิดทำการ : วันจันทร์ถึงวันศุกร์ (ปิดทำการวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดราชการ)
– เวลารับเรื่องใบคำขอ :เวลา 09.00 น. ถึง เวลา 15.00 น.
(ยื่นคำร้องประเภทด่วนและด่วนพิเศษให้ยื่นคำร้องภายในเวลา 11.00 น.)
– เวลาสำหรับชำระเงินและรับเอกสารคืนตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึงเวลา 16.00 น.                                                 (สำหรับคำร้องประเภทด่วนพิเศษสามารถรับเอกสารคืนได้หลังเวลา 15.30 น.)
ติต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 02 207 5999 โทรสาร 02 207 5977 และ Call Center 02 207 5888 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง  http://www.visaforchina.org/BKK_th/
ที่มา : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
---------------------------------


สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

>>ที่พักปลอดภัย เลือกได้ตามสไตล์คุณ”http://happytripbooking.com

>>จองก่อน จ่ายทีหลัง แถมยกเลิกฟรีเมื่อไม่พัก

>>ที่พักกว่า 687,664 แห่ง ใน 214 ประเทศ ทั้งโรงแรม เก็ทเฮ้าท์ และอื่น ๆ อีกมากมาย

>>สมัครฟรี และจัดการจองออนไลน์ได้ง่ายด้วยตัวคุณเอง



11 ที่พักเชียงใหม่ "ราคาหลักร้อย"

1. รอยัล เพนนินซูล่า เชียงใหม่
   
       โรงแรมนี้ได้รับคะแนนสูงถึง 7.1 คะแนน จากการประเมินโดยผู้ที่มาพัก 848 คน ในโรงแรมมีทั้งสระว่ายน้ำและฟิตเนสให้ใช้บริการ มีสัญญาณ Wifi ฟรี โรงแรมอยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยังที่ต่างๆ ได้สะดวก อีกทั้งจุดเด่นของที่นี่อยู่ที่ขนาดของห้องพักที่กว้างขวาง ถึงแม้เนื้อที่ภายในบริเวณโรงแรมอาจจะดูไม่ใหญ่นักก็ตาม ส่วนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 460++ บาท




เที่ยวเชียงใหม่สบายกระเป๋า กับ 11 โรงแรมเก๋ไก๋ “ราคาหลักร้อย”


      

 2. ณภัทรา เชียงใหม่
   
       โรงแรมแบบ budget hotel ได้คะแนนสูงถึง 8.1 จากรีวิวของแขกที่มาพัก 948 คน ภายนอกและภายในโรงแรมดูเรียบง่ายแต่สวยงามทันสมัย ภายในห้องพักขนาดกว้างขวาง มีแอร์และทีวีจอแบน จุดเด่นอยู่ที่มินิบาร์ที่ให้ฟรีหมดทั้งน้ำเปล่า น้ำผลไม้ น้ำอัดลม ภายนอกมีที่จอดรถขนาดใหญ่ มี Wifi ให้ใช้ฟรีทั่วโรงแรมและมีคอมพิวเตอร์ที่โถงชั้นล่างด้วย จากโรงแรมสามารถเดินไปถึงได้ทั้งมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และสถานที่ท่องเที่ยวของเชียงใหม่ ราคาเริ่มต้นที่คืนละ 600+


เที่ยวเชียงใหม่สบายกระเป๋า กับ 11 โรงแรมเก๋ไก๋ “ราคาหลักร้อย”

        3. อินสไปร์ เฮาส์
   
       จุดเด่นของที่นี่คือทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้านหรือคอนโดส่วนตัว ห้องมีขนาดกว้างขวาง บางห้องมีโซนครัวให้ด้วย มีทีวีช่องภาษาอังกฤษให้ดูมากมาย และห้องอาหารราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพระดับโรงแรมสามดาว ส่วนจุดด้อย คงจะเป็นเรื่องของระยะทางจากโรงแรมไปยังสถานที่ต่างๆ ในเขตเมืองเก่าที่ไกลพอควร ต้องนั่งตุ๊กตุ๊กหรือสองแถว หรือขับรถส่วนตัวเข้าไปในเมือง ส่วนราคา หากมาพักทั้งอาทิตย์ จ่ายแค่ 3,000++ บาท เท่านั้นเมื่อจองผ่าน Hotellook


เที่ยวเชียงใหม่สบายกระเป๋า กับ 11 โรงแรมเก๋ไก๋ “ราคาหลักร้อย”

        4. The Siri House
   
       ที่นี่เป็นโฮสเทลที่เหมาะสำหรับขาลุย ได้รับการยกย่องในหมู่ backpacker ว่า เป็นหนึ่งในโฮสเทลที่ดีที่สุดของเชียงใหม่ ภายในสะอาดสะอ้าน มีน้ำดื่มฟรี Wifi ฟรี มีให้เลือกทั้งแบบห้องพัดลมและห้องแอร์ เตียงธรรมดาหรือเตียงสองชั้น โรงแรมอยู่ในใจกลางเมือง เดินทางไปไหนสะดวก ซ้าย-ขวา ฝั่งตรงข้ามโฮสเทลมีร้านอาหารมากมาย จึงทำให้ได้เรตจากผู้มาพักถึง 8.0 ทั้งที่ราคาไม่ถึง 200 บาท


เที่ยวเชียงใหม่สบายกระเป๋า กับ 11 โรงแรมเก๋ไก๋ “ราคาหลักร้อย”

        5. ดิ โอเปี้ยม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ แอนด์ โฮเทล 
   
       อพาร์ทเมนท์ ดิ โอเปี้ยมฯ เป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่ทำให้แขกที่พักรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเช่นกัน ห้องพักมีขนาดกว้างขวาง มีห้องครัว จาน ชาม และเครื่องครัวให้พร้อม มีสัญญาณ Wifi ฟรี มีระเบียงกว้างๆ ชมวิวดอยสุเทพ หรือจะขึ้นไปดาดฟ้าอาบแดดในวันอากาศเย็นสบายก็ได้ จุดด้อยอย่างเดียวคือไกลจากตัวเมืองเล็กน้อย ราคาราว 800 บาท


เที่ยวเชียงใหม่สบายกระเป๋า กับ 11 โรงแรมเก๋ไก๋ “ราคาหลักร้อย”

        6. โรงแรมเมอร์เคียว เชียงใหม่
   
       โรงแรมเก่าแก่ขนาด 159 ห้อง มีอาหารเช้าแบบ buffet ห้องพักกว้างขวาง มีทั้งสระว่ายน้ำ และสวนภายในโรงแรมให้เดินเล่นผ่อนคลาย ที่นี่ยังเหมาะสำหรับคนที่มองหาที่พักใกล้ๆ สนามบิน เรตติ้ง 7.2 ราคาเริ่มต้นประมาณคืนละ 760++ บาท


        7. โรงแรมซี เอช
   
       แม้สภาพโรงแรมจะเป็นสไตล์โรงแรมเก่า แต่ข้างในมีแต่ความสะดวกสบายซ่อนอยู่ ที่ตั้งของโรงแรมอยู่ใกล้กับตลาดนัดตอนกลางคืน มีสระว่ายน้ำในโรงแรมที่สะอาดและไม่วุ่นวาย พนักงานทุกคนอัธยาศัยดีและเต็มใจช่วยเหลือเสมอ รวมทั้งอาหารบุฟเฟต์มื้อเช้าที่มีแต่คนชื่นชม ราคาเริ่มต้น 331 บาท/คืน


เที่ยวเชียงใหม่สบายกระเป๋า กับ 11 โรงแรมเก๋ไก๋ “ราคาหลักร้อย”

        8. โรงแรมทรี เรสซิเดนซ์
   
       โรงแรมนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศแบบธรรมชาติ ติดดิน ไม่ต้องการความหรูหรามากนัก แต่นอนสบายเหมือนพักบ้านตากอากาศ โรงแรมระดับสองดาวแห่งนี้ ได้รับคำชมจากนักท่องเที่ยวหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทำเลที่ตั้งที่ไม่ไกลจากจุดท่องเที่ยวมากนัก จากโรงแรมไปยังสนามบินโดยรถตุ๊กตุ๊กแค่ 30 บาท มี Internet เร็วและแรงให้ใช้ และมีชา กาแฟ ฟรีให้ทานตลอดทั้งวัน จุดด้อยที่อาจทำให้หลายคนไม่อยากมานอนที่นี่ คงจะมีแค่เรื่องของหน้าต่างบานเกล็ด และความเป็นบ้านพักธรรมดาๆ ที่ไม่ได้ตกแต่งให้สวยงามมากมายเป็นพิเศษ


เที่ยวเชียงใหม่สบายกระเป๋า กับ 11 โรงแรมเก๋ไก๋ “ราคาหลักร้อย”

        9. At Home At Chiang Mai 
   
       จุดเด่นที่มีทำเลที่ตั้งใกล้ใจกลางเมืองมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ประตูท่าแพ ประตูเมืองเชียงใหม่ วัดเจดีย์หลวง หรือจะเป็นถนนคนเดินท่าแพ และตลาดไนต์บาซาร์ เรียกว่าเหมาะสำหรับคนขาเที่ยวที่ชอบเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่จริงๆ ราคาเริ่มแค่คืนละประมาณ 795++ บาท


เที่ยวเชียงใหม่สบายกระเป๋า กับ 11 โรงแรมเก๋ไก๋ “ราคาหลักร้อย”

        10. โรงแรมศิริปันนา วิลลา รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงใหม่
   
       โรงแรมแนวเน้นวัฒนธรรมพื้นบ้าน ท่ามกลางบรรยากาศชาวเหนือกลางทุ่งนา มีทั้งขันโตก บริการตักบาตรตอนเช้า สระว่ายน้ำท่ามกลางสถาปัตยกรรมล้านนา และพนักงานโรงแรมที่เป็นมิตรคอยต้อนรับขับสู้แขกที่มาเยือนทุกคน ราคาที่พักระดับ 3 ดาว ในบรรยากาศโรงแรม 5 ดาว จุดด้อยอาจจะมีเรื่อง Wifi ในห้องที่มีค่าบริการ แต่ก็มีอินเทอร์เน็ตฟรีให้ใช้ได้ที่ล็อบบี้ของโรงแรม ราคาเริ่มต้นอยู่ที่แค่ 850+ เท่านั้น


เที่ยวเชียงใหม่สบายกระเป๋า กับ 11 โรงแรมเก๋ไก๋ “ราคาหลักร้อย”

        11. โรงแรมลา พิลโล่ 8
   
       โรงแรม “ลา พิลโล่ 8” ได้รับคะแนนจากผู้ที่มาพัก 776 คน มากถึง 8.4 และได้รับคำชมว่า เป็นหนึ่งในโรงแรมที่มีการออกแบบ ตกแต่งภายในที่โดดเด่นและสวยงามของเชียงใหม่ จากโรงแรม สามารถเดินไปถึงวัดเจดีย์หลวง อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ หรือประตูท่าแพได้ง่ายๆ เทียบกับการบริการ ความใส่ใจของพนักงานที่นี่ และตัวโรงแรมที่ตกแต่งอย่างสวยงาม โรงแรม “ลา พิลโล่ 8” จึงคุ้มค่าอย่างยิ่ง ด้วยราคาเริ่มต้น 990++ บาท


ที่มา : manager


สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

>>ที่พักปลอดภัย เลือกได้ตามสไตล์คุณ”http://happytripbooking.com

>>จองก่อน จ่ายทีหลัง แถมยกเลิกฟรีเมื่อไม่พัก

>>ที่พักกว่า 687,664 แห่ง ใน 214 ประเทศ ทั้งโรงแรม เก็ทเฮ้าท์ และอื่น ๆ อีกมากมาย

>>สมัครฟรี และจัดการจองออนไลน์ได้ง่ายด้วยตัวคุณเอง

Sunday 27 September 2015

10 ที่เที่ยวหน้าหนาว ที่ต้องไปเยือนในปี 2558

   
1. ดอยหลวงเชียงดาว

ที่เที่ยวหน้าหนาว

          ดอยเชียงดาว อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว อำเภอเชียงดาว ยอดสูงสุดของดอยเชียงดาว เรียกว่า ดอยหลวงเชียงดาว (เพี้ยนมาจากคำที่ชาวบ้านในละแวกเปรียบเทียบดอยนี้ว่าสูงเพียงดาว) มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนรูปกรวยคว่ำสูง 2,195 เมตร จากระดับน้ำทะเล นับเป็นยอดดอยที่สูงอันดับ 3 ของประเทศรองจากดอยอินทนนท์และดอยผ้าห่มปก จากบนยอดดอยซึ่งเป็นที่ราบแคบ ๆ สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามรอบด้าน คือ ทะเลหมอกด้านอำเภอเชียงดาว ดอยสามพี่น้อง เทือกดอยเชียงดาว ตลอดจนถึงยอดดอยอินทนนท์อันไกลลิบ อากาศเย็น ลมแรง และสมบูรณ์ด้วยดอกไม้ป่าภูเขาที่หาชมได้ยากมากมายรวมทั้งนกและผีเสื้อด้วย (ไม่เหมาะที่จะขึ้นไปยืนบนยอดดอยทีละกลุ่มใหญ่ ๆ เพราะจะไปเหยียบย่ำทำลายพรรณไม้บนนั้นได้แม้จะโดยไม่ตั้งใจก็ตาม) โดยการเข้าไปใช้พื้นที่ต้องทำหนังสือขออนุญาตถึงผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ อย่างน้อย 2 อาทิตย์ ก่อนการเดินทาง รายละเอียด โทรศัพท์ 0 2561 2947

          การเดินทางสู่ยอดดอยเชียงดาวเริ่มที่ถ้ำเชียงดาว ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถติดต่อคนนำทาง ลูกหาบ รวมทั้งรถไปส่งที่จุดเริ่มเดินได้ ซึ่งบนดอยเชียงดาวไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ นักท่องเที่ยวต้องเตรียมตัวไปด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องนอน อาหาร และน้ำ

2. เขาโมโกจู


ที่เที่ยวหน้าหนาว

          ขุนเขาแห่งความหนาวเย็น ด้วยความสูง 1,964 เมตร จากระดับน้ำทะเล โมโกจูจึงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์และสูงที่สุดในผืนป่าตะวันตก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 27 กิโลเมตร แม่วงก์ ใช้เวลาเดินเท้าไปกลับ 4-5 วัน แม้ระยะทางจะไกลและยากแก่การเข้าไปถึง แต่โมโกจูก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางหลาย ๆ คน ที่จะเก็บเป็นความประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิต

          ทั้งนี้คำว่า "โมโกจู" เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า เหมือนฝนจะตก เนื่องจากบนยอดเขามักถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกและมีอากาศหนาวเย็นตลอดเวลา ผู้สนใจจะไปสัมผัสยอดเขาโมโกจูต้องเตรียมร่างกายให้แข็งแรง เพราะทางเดินขึ้นเขามีความลาดชันไม่ต่ำกว่า 60 องศา ใช้เวลาในการเดินทางไป-กลับ 5 วัน และต้องพักแรมในป่าตามจุดที่กำหนด นอกจากนั้นควรศึกษาสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ และติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางจากอุทยานฯ ซึ่งเปิดให้เดินขึ้นยอดเขาโมโกจูในเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ของทุกปี

3. ภูป่าเปาะ


ที่เที่ยวหน้าหนาว
ภาพจาก ททท.

          ภูป่าเปาะ ที่ที่ได้รับสมญานามว่าเป็น "ฟูจิเมืองไทย" ตั้งอยู่ที่บ้านผาหวาย อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อ-ภูกระแต ซึ่งห่างจากสวนผาหินงามหรือคุนหมิงเมืองไทยประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 900 เมตร บนภูป่าเปาะนั้นมีจุดชมวิวอยู่ด้วยกัน 4 จุด โดยจุดชมวิวแต่ละจุดมีระยะทางห่างกันประมาณ 200 เมตร

4. ดอยผ้าห่มปก


ที่เที่ยวหน้าหนาว

          ดอยผ้าห่มปก อยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก เป็นดอยที่สูงอันดับ 2 ของประเทศไทย ด้วยความสูงประมาณ 2,285 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง บนยอดดอยสูงสุดเป็นทุ่งโล่งอันเกิดจากสภาพธรณีวิทยาที่มีชั้นดินตื้น ชั้นหินเป็นหินแกรนิต ประกอบกับอากาศมีลมกรรโชกแรงตลอดทั้งปี จากยอดดอยจะเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม เช่น ทะเลหมอก และถนนบนสันเขา ขนานกับชายแดนไทย-พม่า ซึ่งถือเป็นถนนที่สร้างขึ้นเพื่อความมั่นคงระหว่างประเทศ ส่วนสภาพป่าเป็นป่าต้นน้ำ ป่าดิบเขา ซึ่งมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สมดุลและหลากหลายทางชีวภาพ ดังเช่นจะพบพันธุ์พืช สัตว์ป่าหายากและที่น่าสนใจนานาชนิด อาทิ เทียนหาง บัวทอง ผีเสื้อไกเซอร์อิมพิเรียล ผีเสื้อมรกตผ้าห่มปก ผีเสื้อหางติ่งแววเลือน ผีเสื้อหางดาบตาลไหม้ นกปรอดหัวโขนก้นเหลือง และนกปีกแพรสีม่วง เป็นต้น ในฤดูหนาวมีนกอพยพมาอาศัย เช่น นกเดินดงคอแดง นกเดินดงดำปีกเทา นกเดินดงสีน้ำตาลแดง ฯลฯ

          สำหรับเส้นทางขึ้นดอยผ้าห่มปกมี 3 เส้นทาง ได้แก่ ทางกิ่วลม ทางปางมงคล และทางหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สาว โดยนักท่องเที่ยวสามารถตั้งแคมป์พักแรมได้ตรงบริเวณกิ่วลม เนื่องจากทางอุทยานแห่งชาติไม่อนุญาตให้พักแรมบนยอดดอยฟ้าห่มปก เพราะเป็นหน้าผาชันและอาจเกิดอันตรายได้ ซึ่งการเดินทางขึ้นสู่ยอดดอยเป็นการเดินเท้าระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการเดินขึ้นและลง อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกอนุญาตให้นำรถขึ้นดอยผ้าห่มปกได้แล้ว โดยต้องขึ้นดอยก่อน 15.30 น. และต้องใช้รถกระบะเท่านั้น ห้ามนำรถเก๋ง รถตู้ รถบัสขึ้นดอย เพราะถนนยังเป็นทางลูกรัง ถ้าไม่มีรถขึ้นดอยสามารถติดต่อรถให้บริการได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก เลขที่ 224 หมู่ 6 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ 50110 โทรศัพท์ 08 6430 9748 , 0 5345 3517-8 โทรสาร 0 5345 3517 อีเมล doiphahompok.np@hotmail.com

5. ภูสอยดาว


ที่เที่ยวหน้าหนาว

          ภูสอยดาว อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงตามแนวชายแดนไทย-ลาว มีความสูงอยู่ที่ 2,102 เมตร อากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี สภาพป่าส่วนใหญ่ยังอุดมสมบูรณ์ มีทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ในพื้นที่ที่เคยเป็นที่ทำกินของชาวเขาเผ่าม้ง แหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ ได้แก่ ป่าสน ทุ่งดอกไม้ หน้าผาจุดชมวิว น้ำตกสายทิพย์ และน้ำตกภูสอยดาว พื้นที่ป่าสนสามใบ เหมาะแก่การมาเที่ยวชมในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน เนื่องจากจะพบเห็นทะเลหมอกและดอกไม้ต่าง ๆ โดยเฉพาะดอกหงอนนาคขึ้นอยู่ทั่วไป และกล้วยไม้ป่าตามคาคบไม้ใหญ่ ระยะทางเดินทางจากเชิงเขา 6.5 กิโลเมตร บางช่วงเป็นเส้นทางชัน ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง มีสถานที่กางเต็นท์และห้องสุขาบริการ

          ทั้งนี้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ 53110 โทรศัพท์ 0 5543 6001-2

          การเดินทาง

          รถยนต์

          • จากจังหวัดพิษณุโลก ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 แล้วแยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1246 ถึงบ้านแพะแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1143 ผ่านอำเภอชาติตระการ แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1237 ผ่านบ้านบ่อภาคไปบรรจบกับเส้นทางแผ่นดินหมายเลข 1268 ถึงน้ำตกภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว รวมระยะทางประมาณ 188 กิโลเมตร

          • จากจังหวัดอุตรดิตถ์ใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1047 (อุตรดิตถ์-น้ำปาด) จนถึงอำเภอน้ำปาดแล้วเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1239 ไปอีก 47 กิโลเมตร จึงเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1268 ไปอีก 18 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ รวมระยะทางประมาณ 133 กิโลเมตร

          รถโดยสารประจำทาง

          การเดินทางด้วยรถโดยสารวิธีที่ 1

          • ช่วงที่ 1 จากกรุงเทพฯ ขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งหมอชิต สายกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ไปลงที่จังหวัดพิษณุโลก

          • ช่วงที่ 2 จากจังหวัดพิษณุโลก เดินทางด้วยรถโดยสารระหว่างอำเภอ ไปอำเภอชาติตระการ ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร

          • ช่วงที่ 3 จากอำเภอชาติตระการ เดินทางด้วยรถสองแถว ซึ่งมีวันละ 1 เที่ยว รถออกเดินทางไม่เกิน 09.00 น. ไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร

          การเดินทางด้วยรถโดยสารวิธีที่ 2

          • ช่วงที่ 1 จากกรุงเทพฯ ขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งหมอชิต สายกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ไปลงที่จังหวัดพิษณุโลก

          • ช่วงที่ 2 จากจังหวัดพิษณุโลก เดินทางด้วยรถรับจ้างเหมาไป-กลับไปอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร

          หมายเหตุ : หากนักท่องเที่ยวเดินทางไปถึงอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวแล้วไม่สามารถขึ้นยอดภูสอยดาวได้ทัน (อุทยานแห่งชาติเปิดให้ขึ้นลานสนภูสอยดาวตั้งแต่เวลา 08.00-14.00 น.) ทางอุทยานแห่งชาติได้จัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติที่อยู่ด้านล่างไว้แล้ว

6. ม่อนจอง


ที่เที่ยวหน้าหนาว

          ม่อนจอง ขึ้นอยู่กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ซึ่งครอบคลุมพื้นที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และ อำเภอสามเงา จังหวัดตาก สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องไพรมายังดอยม่อนจอง ก็คือ กวางผาหรือม้าเทวดาซึ่งมีถิ่นอาศัยอยู่ที่นี่ และทิวทัศน์ที่สวยงามของทิวเขา ซึ่งหากมาในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม จะได้พบดอกกุหลาบพันปีที่กำลังบาน ว่ากันว่าต้นนี้เป็นต้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมี “ดอยหัวสิงห์” เป็นยอดเขาสูงสุด ทั้งนี้การเดินขึ้นม่อนจองสามารถไปเช้าเย็นกลับได้ แต่จะเหนื่อยมาก ต้องเริ่มออกเดินตั้งแต่ 06.30 น. เป็นอย่างน้อย หากเดินแบบไม่เหนื่อยเกินไปนักควรใช้เวลา 2 วัน 1 คืน ก่อนเดินขึ้นดอยต้องติดต่อขออนุญาตจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย หน่วยมูเซอซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการเขตรักษาพันธุ์ฯ

          การเดินทางไปยังเขตรักษาพันธุ์ฯ อมก๋อย (หน่วยมูเซอ) จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 แล้วแยกซ้ายจากอำเภอฮอดเข้าทางหลวงหมายเลข 1099 ไปจนถึงตัวอำเภออมก๋อย และตรงต่อไปตามทางหลวง 1099 ประมาณ 40 กิโลเมตร จะพบหน่วยมูเซออยู่ทางด้านซ้ายมือ จากหน่วยฯไปยังจุดเริ่มเดินอีกประมาณ 16 กิโลเมตร ทางในช่วงนี้จำเป็นต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อและคนขับที่มีความชำนาญเป็นอย่างมาก เนื่องจากสภาพทางเป็นลูกรังและแคบคดเคี้ยวริมผา ผู้ที่เดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจากอำเภอเมืองเชียงใหม่มีคิวรถจากประตูช้างเผือกมายังอมก๋อย รถออกประมาณ 08.00 น. ซึ่งบนม่อนจองไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ หากต้องการพักแรมต้องนำเต็นท์และอาหารไปเอง

7. ภูลมโล


ที่เที่ยวหน้าหนาว

          ภูลมโล อยู่ในพื้นที่ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ จังหงวัดเลย จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดพิษณุโลก โดยจุดสูงสูดอยู่บริเวณ "ยอดภูลมโล" มีความสูง 1,680 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทำให้อากาศหนาวเย็นตลอดปี แต่ไฮไลท์ที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากไปสัมผัสกับที่นี่สักครั้ง ก็คือ การไปชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่เยอะมากที่สุดในเมืองไทย ซึ่งในอดีตภูลมโลเคยถูกเป็นภูเขาหัวโล้น ต่อมาทางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าได้เข้ามาพัฒนาพร้อมกับปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งหลายหมื่นต้น บนพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ เมื่อถึงช่วงราวเดือนธันวาคม-มกราคม ต้นนางพญาเสือโคร่งก็จะออกดอกบานสะพรั่งย้อมให้ภูลมโลกลายเป็นดินแดนสีชมพูสุดงดงาม ทั้งนี้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวต.กกสะทอน หรือติดต่อสอบถามที่ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวต.กกสะทอน โทรศัพท์ 08 0791 4748, 09 1373 0903

8. อุทยานแห่งชาติเขาหลวง


ที่เที่ยวหน้าหนาว

          อุทยานแห่งชาติเขาหลวง เป็นแหล่งท่องเที่ยวรางวัลยอดเยี่ยม ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ปี 2541 ครอบคลุมพื้นที่ 8 อำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช นับเป็นอุทยานแห่งชาติสำคัญอันดับต้น ๆ ของประเทศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญของโลก มีรายงานสำรวจพบเฟิร์นบนเขาหลวงมากกว่า 200 ชนิด เช่น เฟิร์นบัวแฉก (พันธุ์ไม้โบราณ) เฟิร์นมหาสดำ (เฟิร์นต้นขนาดใหญ่ที่พัฒนามาก่อนยุคไดโนเสาร์) เป็น "สุดยอดแหล่งรวมกล้วยไม้เมืองใต้" เช่น กล้วยไม้สิงโตอาจารย์เต็ม, สิงโตใบพัดเหลือง, ขนตาสิงโต, เอื้องสายเสริต, เอื้องคีรีวง เป็นต้น  ป่าผืนนี้ยังเป็นอาณาจักรของพืชสัตว์เฉพาะถิ่น เช่น กุหลาบพันปีเขาหลวง นกกินปลีหางยาวเขียว ฯลฯ

          โดยมียอดเขาหลวงสูงที่สุดในภาคใต้ ความสูง 1,835 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ในเขตอุทยานฯ มีแหล่งท่องเที่ยวหลายหลายรูปแบบทั้งการเที่ยวชมความงามและชื่นฉ่ำกับน้ำตกมายมาย เช่น น้ำตกพรหมโลก น้ำตกอ้ายเขียว น้ำตกกะโรม น้ำตกกรุงชิง ฯลฯ การเดินป่าศึกษาธรรมชาติทั้งระยะสั้นและระยะไกลหลายเส้นทาง นักผจญภัยไม่ควรพลาดการพิชิตยอดเขาหลวงในช่วงเดือนมกราคม-กันยายน ระยะเวลาที่เหมาะสม 3 วัน 2 คืน ทั้งนี้สอบถามข้อมูลท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง โทรศัพท์ 0 7530 0494, 0 7546 0463

9. ดอยเสมอดาว


ที่เที่ยวหน้าหนาว

          ดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์ ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 16 สายนาน้อย-ปางไฮ เป็นจุดชมทิวทัศน์บนยอดหน้าผาสูง สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ 360 องศา มีพื้นที่เป็นลานกว้างตามสันเขา สำหรับพักผ่อนและดูดาว ดูพระอาทิตย์ตกและยังเป็นจุดชมทะเลหมอกอีกด้วย หากจะเดินขึ้นไปบนผาสิงห์ (เป็นหน้าผาที่มีรูปร่างคล้ายหัวสิงห์) ระยะทาง 2 กิโลเมตร ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางจากอุทยานฯ ระหว่างทางจะพบต้นจันทน์ผาซึ่งเป็นไม้เด่น และเมื่อท้องฟ้าแจ่มใส จากผาสิงห์สามารถมองเห็น อำเภอนาน้อย อำเภอเวียงสา และแม่น้ำน่านได้

          สำหรับผู้ที่สนใจค้างแรมก็มีพื้นที่กางเต็นท์บริการ แต่ต้องเตรียมอาหารไปเอง ทั้งนี้ติดต่อและสอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตู้ปณ. 14 ตำบลศรีสะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150 โทร. 0 5470 1106, 08 1224 0800 หรือกรมอุทยานแห่งชาติฯ โทรศัพท์ 0 2562 0760 และ www.dnp.go.th

10. เขาพะเนินทุ่ง-ทะเลหมอก กม.36


ที่เที่ยวหน้าหนาว

          เขาพะเนินทุ่ง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่บนสันเขา รายล้อมด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อนของเทือกเขาตะนาวศรี ทำให้สามารถชมทิวทัศน์ได้ตลอดสายเห็นภูเขา ทะเลหมอก ป่าเขียวขจี และพบเห็นสัตว์นานาชนิดได้ไม่ยาก ส่วนจุดชมทะเลหมอก (ตอนเช้า) ที่ กม.36 สามารถชมทะเลหมอกได้ใกล้ชิด จุดนี้สามารถชมทะเลหมอกได้เกือบตลอดปี จุดชมวิวนี้อยู่บริเวณ กม.ที่ 36 ของเส้นทางสายวังวน-น้ำตกทอทิพย์ ก่อนถึงทางลงสู่น้ำตกทอทิพย์ ในยามเช้าจะมองเห็นทะเลหมอกสีขาวปกคลุมทั่วหุบเขา เมื่อทะเลหมอกสลายตัวไปแล้วจะมองเห็นผืนป่าดงดิบเบื้องล่างเบียดตัวกันแน่นท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อนกว้างไกลสุดสายตา บางครั้งอาจพบนกกกและนกเงือกกรามช้างบินอยู่เหนือผืนป่า

          ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวต้องการพักค้างแรมที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ.19 (พะเนินทุ่ง) บริเวณ กม.30 ต้องจองพื้นที่กางเต็นท์ผ่านระบบออนไลน์ ทางอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์ www.dnp.go.thล่วงหน้า 60 วัน พื้นที่กางเต็นท์แห่งนี้รับได้ 150 คน/คืน สำหรับการเดินทางต้องใช้รถที่มีกำลังสูง สามารถเหมารถปิกอัพได้จากบริเวณที่ทำการอุทยานฯ เนื่องจากถนนค่อนข้างแคบ อุทยานฯ จึงได้กำหนดเวลาในการขึ้น-ลง คือ เวลาขึ้น ช่วงเช้าเวลา 05.30-07.30 น. ช่วงบ่ายเวลา 13.00-15.00 น. และเวลาลง ช่วงเช้าเวลา 09.00-10.00 น. ช่วงบ่ายเวลา 16.00-17.00 น.   สำหรับผู้ที่ต้องการจะขึ้นเขาพะเนินทุ่งต้องติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อขอใบอนุญาตผ่านมทาง และผู้ที่ต้องการจะขึ้นเขาพะเนินทุ่ง เวลา 05.00 น. ต้องทำใบขออนุญาตล่วงหน้า 1 วัน


ที่มา : kapook


สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

>>ที่พักปลอดภัย เลือกได้ตามสไตล์คุณ”http://happytripbooking.com

>>จองก่อน จ่ายทีหลัง แถมยกเลิกฟรีเมื่อไม่พัก

>>ที่พักกว่า 687,664 แห่ง ใน 214 ประเทศ ทั้งโรงแรม เก็ทเฮ้าท์ และอื่น ๆ อีกมากมาย

>>สมัครฟรี และจัดการจองออนไลน์ได้ง่ายด้วยตัวคุณเอง

Sunday 6 September 2015

แนะนำที่พัก: B2 ขอนแก่น

หลังจากที่เราเพิ่งรีวิว 1 คืน 1 วัน กับเมืองขอนแก่น

รอบนี้เราขอมารีวิวภายในห้องพักของ B2 กันบ้างนะ

กับห้องแบบเตียงคู่ ราคา 550บาท



สำหรับประตูจะเป็นแบบคีย์การ์ด(มีค่ามัดจำ 300บาท)


ตู้เสื้อผ้า



มุมทีวี


ห้องน้ำ


สำหรับเราแล้ว B2 ถือเป็นอีกคำตอบหนึ่งที่น่าสนใจเลยแหละ

ทั้งตัวโรงแรมที่ยังดูใหม่อยู่ ที่จอดรถที่กว้างขวาง

พร้อมทั้งราคาค่าห้องพักที่ไม่แพงจนเกินไป

จะมีข้อเสียก็ในส่วนของพนักงานที่ไม่ค่อยสนใจบริการ

ปล่อยให้เรายืนรอนานสองนาน ทั้งทีไม่มีใครนอกจากกลุ่มเราตอนนั้น

แต่เอาเนาะถ้ามองข้าม ๆ ไปก็โอเคทีเดียว

สนใจจองที่พักได้ที่: 

>>ที่พักปลอดภัย เลือกได้ตามสไตล์คุณ”http://happytripbooking.com
>>จองก่อน จ่ายทีหลัง แถมยกเลิกฟรีเมื่อไม่พัก
>>ที่พักกว่า 687,664 แห่ง ใน 214 ประเทศ ทั้งโรงแรม เก็ทเฮ้าท์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
>>สมัครฟรี และจัดการจองออนไลน์ได้ง่ายด้วยตัวคุณเอง









Wednesday 2 September 2015

1 คืน 1 วัน กับเมืองขอนแก่น


เริ่มต้นกับทริปนี้เริ่มจาก แอร์เอเชียจัดโปรตั๋วเครื่องบินราคาถูก

จึงเกิดคำถามต่อมาว่า"ไปไหนดี แต่ขอเป็นเมืองที่ไม่เคยไป"

ผลจึงตกมาอยู่ที่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเราเคยนั่งผ่านอย่างเดียวมาหลายครั้งหลายครา

ไป - กลับ ต่อคนราคา  442.80 บาท(ทริปนี้เราไปกัน 2 คน)




เราเดินทางกันช่วงเย็นประมาณ 16.40น. เมื่อถึงก็รีบไปรับรถที่จองไว้กับ BUDGET ทันที

คือแบบว่าแอบหิวนิสหน่อยเอง(เรื่องกินเรื่องใหญ่จริง ๆ)

แต่เพื่อความสบายแวะไปเซ็คอินที่พักก่อนก็ดีเนาะ

สำหรับทริปนี้เราใช้บริการ B2 ห้องเตียงคู่ราคา 550 บาท มีค่ามัดจำบัตร 300 บาท

เป็นอาคารปูนเปลือย โดยรวมก็ดีเลยแหละ เพราะโรงแรมใหม่เลยทีเดียว

แต่ขอติตรงเรื่องของแสงไฟในห้องหน่อยเถอะ จะมืดไปไหน เพิ่มไฟหัวเตียงก็ดีนะ

ส่วนเรื่องพนักงานก็ข้าม ๆ ไปก็แล้วกันเน๊อะ



หลังจากนั้นก็ได้เวลากินแล้วสิ เราทั้งสองไปตลาดต้นตาลเลยจร้า

คือเอาแบบว่าใครอยากกินไรก็กินไป


อิ่มแล้วก็ได้เวลาพักผ่อน นอนหลับ คร่อกฟี้

-----

ตื่นเช้ามาขอนแก่นทั้งที ก็คงต้องแวะร้านเอมโอช อาหารเช้าขึ้นนิสนึง

แต่ดันมีเหตุการณ์โดนใบสั่ง เนื่องจากโชเฟอร์ของเราไม่ชินทางไปวิ่งตรงในเลนเลี้ยวซ้าย

เอาแหละซิ โดนเลยจร้า โดนไป 200 รับเช้าวันใหม่ แถมได้ขึ้นโรงพักไปจ่ายค่าปรับเลย

ยังไงก็คิดว่าไปท่องเที่ยวในโรงพักแหละกันนะ


กินอิ่มแล้วก็ของแวะศาลหลักเมืองที่แรกกันต่อเลย

ตามด้วยบึงแก่นนคร วันที่เราไปไม่มีแดดเลยได้นั่งรับลมชมแม่น้ำไหลเอื่อย ๆ


นอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานอนุสาวรีย์ "เจ้าเพียเมืองแพน" ผู้ก่อตั้งเมืองขอนแก่นแล้ว 

ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่นิยมมาพักผ่อนหย่อนใจ และทำกิจกรรมนันทนาการของชาวเมือง

และตัวบึงแก่นนครยังอยู่ใกล้กับ วัดหนองแวง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ

เดิมชื่อวัดเหนือ ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2332 พร้อมกับวัดกลาง และวัดธาตุ 

ดยท้าวเพียเมืองแพน เจ้าเมืองคนแรก ณ บ้านบึงบอน (บึงแก่นนคร) พ.ศ.2354 

ท้าวจามมุตร ท้ายเพียเมืองแพน เจ้าเมืองคนที่ 2 ได้ย้ายเมืองไปอยู่บ้านดอนพันชาติ 

เขตเมืองมหาสารคาม (บ้านโนนเมือง ตำบลแพง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม) 

บ้านบึงบอนจึงกลายเป็นเมืองเก่าตั้งแต่นั้นมา






มาถึงจังหวัดขอนแก่นทั้งที เรา 2คน จะไปกินส้มตำก็เหมือนไม่ถึงถิ่นอีสาน

ดังนั้นเราเลือก ร้าน"ไก่ย่างปรีชา" ที่ตั้งอยู่ในส่วนของอุทยานเกษตรมหาวิทยาลัยขอนแก่น

ขอบอกเลยนะคะ รสชาติแซบนัวจริง ๆ 

แต่เราทั้ง 2คน ลงความเห็นว่าที่ตลาดต้นตาลรสชาตินัวกว่านิสนึง





ต่อด้วยที่สุดท้าย เขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งพอไปถึงฝนก็ตกพอดีเลยไม่ได้เดินดูอะไรมากนัก




ก่อนจะลากลับกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร


ไฟล์ทแอบดีเลย์หน่อยนึง เนื่องจากดอนเมืองฝนตกหนัก แหมเป็นวันที่ฝนตกทั่วฟ้าชุ่มช้ำกันพอดี
ขากลับเลยได้มีเหตุการณ์ตกหลุมอากาศเป็นประสบการณ์ไป 1ที 

สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้ :  
ตั่วเครื่องบิน ไป - กลับ 2คน 885.6บาท
B2 1คืน 550บาท
เช่ารถ Budget แบบ Deduct 690
อาหารตลอดทริป+เครื่องดื่ม 690บาท
ค่าน้ำมัน  460บาท
เฉลี่ยต่อคน  1,637.8บาท


สนใจจองที่พักได้ที่: 
>>ที่พักปลอดภัย เลือกได้ตามสไตล์คุณ”http://happytripbooking.com
>>จองก่อน จ่ายทีหลัง แถมยกเลิกฟรีเมื่อไม่พัก
>>ที่พักกว่า 687,664 แห่ง ใน 214 ประเทศ ทั้งโรงแรม เก็ทเฮ้าท์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
>>สมัครฟรี และจัดการจองออนไลน์ได้ง่ายด้วยตัวคุณเอง