Monday 24 August 2015

แนะนำร้านอาหาร : รับลมชมเกาะ

ร้านรับลมชมเกาะ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ร้านรับลมชมเกาะเป็นร้านอาหารสวัสดิการของตำรวจน้ำ 
ราคาอาหารถูกกว่าร้านอื่นๆมากค่ะ โดยเฉพาะ ข้าราชการลด 10 % 
แต่ต้องแสดงบัตรและเจ้าของบัตรต้องการทานด้วยนะคะ

พร้อมกับรับลมเย็นๆ ชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน เหมาะกับเป็นร้านที่มาสังสรรค์ในครอบครัวหรือ สังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานหลังเลิกงาน พักผ่อนร่างกายไปกับบรรยากาศดี ๆ 

การเดินทาง : จากถนนสุขุมวิทไปพัทยา ก่อนถึงศรีราชาเพียงเล็กน้อย ซ้ายมือจะเป็นโรงเรียนดาราสมุทร ให้เลี้ยวขวาตรงสามแยกไฟแดง(วัดวังหิน) และตรงมาตาม ถนนเจิมจอมพล ขับมาอีก 100 เมตร จะเจอทางโค้ง ร้านจะอยู่ขวามือ ติดกับกองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ






บรรยากาศภายในร้าน


ปลาหมึกผัดไข่เค็ม


ทอดมันกุ้ง


แกงส้มไข่ปลาเรียวเชียว





สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

>>ที่พักปลอดภัย เลือกได้ตามสไตล์คุณ”http://happytripbooking.com

>>จองก่อน จ่ายทีหลัง แถมยกเลิกฟรีเมื่อไม่พัก

>>ที่พักกว่า 687,664 แห่ง ใน 214 ประเทศ ทั้งโรงแรม เก็ทเฮ้าท์ และอื่น ๆ อีกมากมาย

>>สมัครฟรี และจัดการจองออนไลน์ได้ง่ายด้วยตัวคุณเอง





Wednesday 19 August 2015

วานา นาวา หัวหิน เปิดขายตั๋วปี เล่นสวนน้ำได้ตลอดศก

พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัดผู้บริหารสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน แว่วข่าวดีให้กับแฟนๆตามคำเรียกร้อง เปิดตัวบัตรรายปีวานา นาวาเป็นครั้งแรก กับแคมเปญ มันส์เต็มอิ่ม กรี๊ดทั้งปี  เล่นได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งตลอด 365 วัน จำหน่ายในราคาลดพิเศษที่สุดถึง 40% เฉพาะในงานไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 36บูทเลขที่ M17 – 21 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 3-6 กันยายน ศกนี้ จำกัดเพียงวันละ 100 ชุดเท่านั้น!

วานา นาวา หัวหิน เปิดขายตั๋วปี ต่อยอดความมันส์สะใจเล่นสวนน้ำได้ทั้งปีไม่จำกัด ในราคาพิเศษสุดๆ

วานา นาวา หัวหิน เปิดขายตั๋วปี
วานา นาวา
เป็นที่ฮือฮาในวงการการจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในไทยเมื่อครั้งวานา นาวา หัวหิน ร่วมเปิดบูทขายบัตรเที่ยวสวนน้ำในราคาพิเศษเป็นครั้งแรก ถล่มทลายสถิติความสำเร็จของงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 35 ในครั้งนั้น กับสถิติยอดขายบัตรกว่า 5 หมื่นใบ สำหรับการร่วมออกบูทครั้งที่สองนี้ แฟนคลับสวนน้ำวานา นาวา ให้ความสนใจสอบถามเข้ามามากมาย ครั้งที่สองนี้ นอกจากราคาบัตรพิเศษทั้งบัตรของผู้ใหญ่และบัตรของเด็ก ยังมี      บัตรรายปีวานา นาวา ที่จะเปิดตัวและจำหน่ายเป็นครั้งแรกในราคาลดพิเศษถึง 40% ซึ่งราคานี้จำกัดเพียง 400 ใบแรก ซึ่งสมาชิก 400 ท่านแรกนี้ จะถูกใจกับความคุ้มสุดคุ้มอย่างแน่นอน เนื่องจากบัตรยังใช้เป็นส่วนลดในบริการอื่นๆได้อีกด้วย
พราวพุธ ลิปตพัลลภ
บัตรรายปีวานา นาวาอยู่ในแผนการตลาดครึ่งปีหลัง 2558 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการวางแผนจัดหาของขวัญสำหรับเทศกาลแห่งความสุขสิ้นปีเมื่อปีที่แล้ว การเปิดสวนน้ำวานา นาวา วันที่ 1 ธันวาคม ประหนึ่งเป็นการมอบของขวัญความสนุกระดับโลกให้แก่คนไทยและนักท่องเที่ยว ในปีนี้ ของขวัญความสนุกได้ถูกออกแบบขึ้นให้ สร้างรอยยิ้มได้ทั้ง 365 วัน ซึ่งหากไม่เล่นน้ำก็ยังสามารถใช้สิทธิประโยชน์อื่นๆที่พ่วงมากับบัตร จึงอยากขอเชิญชวนให้แวะไปที่บูทM17 – 21ของวานา วานา หัวหิน ที่งานไทยเที่ยวไทย 4 วัน 400 ชุดเท่านั้นจริงๆค่ะ” พราวพุธกล่าวเชิญชวน
ที่มา : MTHAI
สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

>>ที่พักปลอดภัย เลือกได้ตามสไตล์คุณ”http://happytripbooking.com

>>จองก่อน จ่ายทีหลัง แถมยกเลิกฟรีเมื่อไม่พัก

>>ที่พักกว่า 687,664 แห่ง ใน 214 ประเทศ ทั้งโรงแรม เก็ทเฮ้าท์ และอื่น ๆ อีกมากมาย

>>สมัครฟรี และจัดการจองออนไลน์ได้ง่ายด้วยตัวคุณเอง


Sunday 16 August 2015

20 ที่เที่ยวหน้าฝน สุดฮอต ไปค้นหาความสุขในวันฝนพรำ



1. น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก

ที่เที่ยวหน้าฝน
ภาพจาก ททท. 

          "น้ำตกทีลอซู" คำว่า ทีลอซู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกดำ ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ห่างจากที่ทำการเขตฯ 1.5 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นน้ำตกเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับทะเลปานกลาง 900 เมตร เกิดจากลำน้ำห้วยกล้อท้อทั้งสายที่ไหลแผ่ปกคลุมพื้นที่หน้าผากว้างกว่า 500 เมตร ก่อนที่จะทะยานลงสู่หน้าผาสูงชันลดหลั่นเป็นชั้น ๆ สูงกว่า 300 เมตร เสียงดังกึกก้องบ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ นับเป็นน้ำตกที่มีความยิ่งใหญ่และสวยที่สุดในเมืองไทย โดยลักษณะเด่นของที่นี่ คือ น้ำใสสะอาด
          ฤดูฝนเป็นช่วงที่น้ำตกสวยที่สุด ซึ่งการเดินเที่ยวชมน้ำตกแต่ละชั้นต้องเดินผ่านสายน้ำขึ้นไป และต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ อีกทั้งในช่วงฤดูฝน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางจะทำการปิดเส้นทางเดินรถยนต์ เนื่องจากการสัญจรลำบาก รวมทั้งเป็นการพักฟื้นผืนป่าให้สัตว์ออกหากินและขยายพันธุ์โดยไม่ถูกรบกวน ซึ่งถ้าหากนักท่องเที่ยวมีความประสงค์จะไปน้ำตกทีลอซู ควรติดต่อบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ โดยการเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางแรกล่องเรือยางจากท่าทราย อำเภออุ้มผาง ไปตามลำน้ำแม่กลองใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง และเดินเท้าต่อไปยังน้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ส่วนเส้นทางที่ 2 คือ เดินเท้าตามเส้นทางรถจากหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยหนองหลวงถึงน้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง โดยนักท่องเที่ยวที่มีความประสงค์เดินทางเข้าในช่วงเวลาดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอุ้มผางก่อนทุกครั้ง ทั้งนี้ สำหรับการล่องแพ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อผ่านบริษัททัวร์ที่จัดล่องแพในอำเภออุ้มผางได้ โดยติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ททท. สำนักงานตาก โทรศัพท์ 0 5551 4341-3 หรือที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง โทรศัพท์ 0 5557 7318

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

2. เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เขื่อนรัชชประภา
          เขื่อนรัชชประภา ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หมู่ที่ 3 ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี 90 กิโลเมตร เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียวอเนกประสงค์ สูง 95 เมตร ยาว 700 เมตร  บริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และสวนสวยงาม อีกทั้งภูเขาหินปูนที่อยู่ในเขื่อนยังมีรูปร่างต่าง ๆ แปลกตาสวยงามตามธรรมชาติ ท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวที่ดูอบอุ่นเย็นสบายเหมาะจะมาเที่ยวพักผ่อน ซึ่งในบริเวณเขื่อนรัชชประภาจะมีที่พักให้เลือกมากมาย โดยจะยังมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น พายเรือแคนู, เที่ยวถ้ำน้ำทะลุ ซึ่งอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ 6 กิโลเมตร โดยทางเท้า เป็นถ้ำใหญ่ที่มีธารน้ำไหล มีหินงอกหินย้อยที่งดงาม การเดินเที่ยวถ้ำค่อนข้างลำบากจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ 0 7728 8817-9, 0 7728 2828 (ในวัน-เวลาราชการ)

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

3. ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ
ที่เที่ยวหน้าฝน

ภาพจาก ททท. 

          ถือเป็นธรรมเนียมสำหรับนักเดินทางที่ในทุกปีจะต้องเดินทางเที่ยวชมความสวยงามของ “ทุ่งดอกกระเจียว” ในเทศกาลท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชัยภูมิ อย่าง เทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม ปี 2557 ซึ่งภายในงานมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย อาทิ การจัดนิทรรศการต่าง, ชมทุ่งดอกกระเจียว, การจำหน่ายสินค้า OTOP, ชมทุ่งบัวสวรรค์และลานหินงาม ป่าหินล้านปีที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติปั้นแต่งตามแต่จะสุดจินตนาการ การแสดง และจำหน่ายสินค้า เป็นต้น
          โดยแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวของจังหวัดชัยภูมิ ประกอบไปด้วย 2 สถานที่ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ถือเป็นอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ที่เมื่อถึงช่วงฤดูฝน ดอกกระเจียวป่าหลากหลายสายพันธุ์จะออกดอกขึ้นมาอย่างหนาแน่น บริเวณทุ่งกว้างที่ถูกปกคลุมด้วย ไอหมอกในยามเช้าอีกด้วย และอุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ สำหรับพื้นที่สำหรับชมทุ่งดอกกระเจียวป่า ของที่นี่จะอยู่บริเวณน้ำตกชวนชม ซึ่งมีการจัดให้เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 2 กิโลเมตร น้ำตกมีความสูง 20 เมตร บริเวณโดยรอบมีต้นไม้และทุ่งบัวสวรรค์หรือทุ่งดอกกระเจียว ที่มีทั้งสีชมพูและสีขาว

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

4. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก
ล่องแก่งลําน้ําเข็ก


          สำหรับคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบกิจกรรมท้าทาย ล่องแก่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด โดยเฉพาะการล่องแก่งลำน้ำเข็กที่สนุกสนาน ตื่นเต้น และท้าทาย ที่เริ่มต้นการล่องเรือยางจากบริเวณบ้านทรัพย์ไพรวัลย์ ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง ไปสู่บริเวณตอนบนของน้ำตกแก่งซอง ซึ่งความพิเศษของการล่องแก่งนี้จะเริ่มต้นจากกระแสน้ำนิ่งระดับ 1 และเข้าสู่ระดับน้ำที่มีความสนุกสนานท้าทายขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งถึงระดับสูงสุด คือ ระดับ 5 ในช่วงท้าย ซึ่งลำน้ำจะขนานไปกับทางหลวง หมายเลข 12 (สายพิษณุโลก-หล่มสัก) รวมระยะทางในการล่องแก่งทั้งสิ้นประมาณ 8 กิโลเมตร ผ่าน 18 แก่ง ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง แล้วแต่ระดับน้ำ และความยากง่าย ทั้งนี้ การล่องแก่งลำน้ำเข็ก ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลงล่องแก่งโดยเด็ดขาด โดยยึดตามข้อบังคับของชมรมผู้ประกอบการล่องแก่งลำน้ำเข็ก ที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานพิษณุโลก โทรศัพท์ 0 5525 2742-3, 0 5525 9907 และ 0 5523 1063 (ในวัน-เวลาราชการ)

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

5. อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
เหมืองปิล็อก
          ขึ้นชื่อในเรื่องความงดงามของทิวทัศน์ ความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ สำหรับ "ทองผาภูมิ" อำเภอสุดแดนตะวันตก ขอบชายแดนไทย-พม่า เพราะสภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงชัน ทำให้มีความสวยงามของท้องทะเลแห่งขุนเขาและทะเลหมอกในยามเช้า อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอยู่หลายแห่ง เช่น เขื่อนเขาแหลม (เขื่อนวชิราลงกรณ) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม, เขาช้างเผือก ที่มีความสูง 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเล เส้นทางเดินไปสู่ยอดเขาช้างเผือกเป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า มองได้รอบทิศทาง 360 องศา, เหมืองปิล็อก เหมืองขนาดใหญ่ที่อดีตเคยทำรายได้หลักและเป็นลมหายใจของชีวิตคนกาญจนบุรี, บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขาที่เงียบสงบ ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั่งเดิมเอาไว้, น้ำตกจ๊อกกระดิ่น มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ในยามหน้าฝนสายน้ำจะไหลพรั่งพรู สวยงามมาก และดอยต่องปะเล จุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดยเฉพาะยามที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าในยามเย็น จะสวยงามและได้บรรยากาศที่สุด

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

6. ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์
ภูสอยดาว
          อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงตามแนวชายแดนไทย-ลาว บริเวณที่สูงที่สุด คือ ยอดเขาภูสอยดาว สูงถึง 2,102 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง อากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี สภาพป่าส่วนใหญ่ยังอุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเพื่อพิชิตยอดภูสอยดาว เพราะด้วยเส้นทางที่ท้าทาย ซึ่งในระหว่างเดินทางสามารถชมความสวยงามของทิวทัศน์ธรรมชาติ น้ำตก และดอกไม้ป่าชนิดต่าง ๆ ได้อีกด้วย โดยการเดินทางขึ้นไปสู่ยอดภูสอยดาวอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับนักเดินเท้าหลาย ๆ คน ด้วยเนินที่สูงชัน เส้นทางแคบ คดเคี้ยว ไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ ผสมกับสายฝน หยาดน้ำค้าง ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ของการเดินทางเป็นอย่างมาก ทำให้นักเดินทางหลายคนเลือกที่จะดินทางไปพิชิตยอดดอย เพื่อตามเก็บภาพความงามอันอัศจรรย์ของทุ่งดอกหงอนนาค ราชินีแห่งดอกไม้ ที่ผลิดอกบานสะพรั่งห่มคลุมทั่วทุกทุ่งกว้าง รวมไปถึง เอื้องหมายนา ลิลลี่ป่า ลิ้นมังกร กระดุมเงิน ว่านไก่แดง และผืนหมกที่ปกคลุมป่าสนสามใบ เรียงรายไปไกลสุดสายตา ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ 53110 โทรศัพท์ 0 5543 6001-2

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

7. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์
ภูทับเบิก
          ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร ตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า หรือห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 90 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับทะเลประมาณ 1,768 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล ตอนเช้ามีกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์ นอกจากนี้ ไฮไลท์ที่ใคร ๆ ก็อยากไปเยือนภูทับเบิก คือ แปลงปลูกกะหล่ำปลีกว้างไกลสุดสายตา ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวภูทับเบิก  

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

8. ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ปาย
          เมืองเล็ก ๆ ที่สามารถเดินทางไปดื่มด่ำกับบรรยากาศความงดงามได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ เพราะแต่ละเดือน แต่ละช่วงฤดูกาล ความงดงามของธรรมชาติจะปรากฏออกมาให้พบเห็นแตกต่างกัน อย่างฤดูฝนแบบนี้ภาพของท้องทุ่งนาสีเขียวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ขุนเขาที่มีสายหมอกบางเบาล้อมรอบ แม่น้ำปายที่มีน้ำเต็มตลิ่ง เหมาะอย่างยิ่งที่จะลงไปล่องแพชื่นชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ตลอดสองฝั่งแม่น้ำ ที่สำคัญคือค่อนข้างเงียบสงบ เป็นส่วนตัว และที่พักราคาถูก มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกไปชื่นชมหลายแห่ง เช่น ถนนคนเดิน, บ้านสันติชล หมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน, น้ำตกหมอแปง, วัดพระธาตุแม่เย็น และโป่งน้ำร้อนท่าปาย ฯลฯ

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

9. เชียงคาน จังหวัดเลย
เชียงคาน
          เชียงคาน เป็นอำเภอเล็ก ๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่ผู้คนมีรูปแบบวิถีชีวิตที่เรียบง่าย เงียบสงบ มีอัธยาศัยดีต่อผู้มาเยือนเสมอ ในย่านชุมชนยังคงมีห้องแถวไม้ บ้านไม้เก่า แก่ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้ เป็นเสน่ห์ที่สุดคลาสสิกของเชียงคาน บางแห่งตกแต่งทำเป็นที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้าสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนแบบสบาย ๆ ใกล้ชิดกับชุมชน แต่ทว่ายังคงแฝงความเรียบง่ายและความเป็นกันเอง โดยเมื่อมาถึงที่นี่สิ่งที่น่าจะทำ คือ หาจักรยานสักคัน ปั่นไปในทุกที่ที่อยากไป เนื่องด้วยเชียงคานเป็นเมืองเล็ก ๆ มีความคล่องตัวสำหรับนักท่องเที่ยวได้ทั่วถึง ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ ตักบาตรตอนเช้า ชมวัด และล่องเรือชมทิวทัศน์สองฝั่งโขง

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

10. วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
วังน้ำเขียว
          สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน นี่คือฉายาที่ใคร ๆ ต่างก็ขนานนามให้กับวังน้ำเขียวเมื่อได้มาเยือน เพราะที่นี่มีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและสภาพอากาศที่เหมาะสมแก่การเจริญของพรรณไม้ที่หลากหลาย มีน้ำตกที่สวยงาม และจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นผืนป่าอุทยานแห่งชาติทับลานที่กลับคืนสู่ความสมบูรณ์ของผืนป่าดงพญาไฟในอดีต อีกทั้งยังมีผลไม้นานาชนิดให้เลือกสรร รวมทั้งยังมีสวนไม้ดอก-ไม้ประดับ ที่สวยงาม การปลูกผักปลอดสารพิษ และ การเพาะเห็ดหอม ซึ่งเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวในพื้นที่อีกด้วยอีกทั้งอากาศยังเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะฤดูหนาวจะค่อนข้างหนาวเย็นเป็นพิเศษ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น เขาแผงม้า ที่มีอากาศเย็นสบาย, กิจกรรมชมแปลงปลูกดอกหน้าวัวหลายสายพันธุ์จากต่างประเทศ ที่มีให้ชมทั้งปี, อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง 1 เป็นอ่างเก็บน้ำที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา เห็นวิวทิวทัศน์ของแนวสันเขายาวอย่างสวยงาม, ชมสวนผักปลอดสารพิษลุงไกร ที่เป็นการรวมตัวกันเป็นกลุ่มส่งเสริมกสิกรรมไร้สารพิษ วังน้ำเขียว เน้นการปลูกผักสลัด ผักกาดหอมเป็นส่วนใหญ่ มีหลายหลายสายพันธุ์ ผักจากสวนลุงไกร สด สะอาด อร่อย ผักสดคุณภาพสูง, วังน้ำเขียวฟาร์ม เป็นศูนย์เพาะพันธุ์เห็ดเมืองหนาว เปิดให้เยี่ยมชมการเพาะเห็ดแบบออร์แกนิก ไร้สารพิษ และยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเห็ดอีกมากมายให้ซื้อกลับบ้าน

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

11.  เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
เขาค้อ

ภาพจาก ททท.

          "เขาค้อ" เป็นชื่อที่ตั้งตามลักษณะของพื้นที่ป่าบริเวณนี้ ที่แต่เดิมมีต้นค้อ ซึ่งเป็นไม้ตระกูลปาล์มขึ้นอยู่มาก ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต เพราะมีภูมิอากาศบนเขาค้อเย็นสบายตลอดปี รวมทั้งมีทัศนียภาพสวยงาม จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบริเวณเขาค้อมีหลายแห่ง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การสู้รบกับคอมมิวนิสต์ ได้แก่ อนุสาวรีย์จีนฮ่อ, พิพิธภัณฑ์อาวุธ, อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ, พระบรมธาตุเจดีย์, พระตำหนักเขาค้อ และน้ำตก ส่วนที่พักบนเขาค้อก็มีให้เลือกหลายแห่ง ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณตำบลทุ่งสมอและแคมป์สน นอกจากนี้ ยังมีรีสอร์ทต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางขึ้นเขาค้อมากมาย

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

12. ล่องแพ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
ที่เที่ยวหน้าฝน


          เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสุดผจญภัย ที่สร้างประสบการณ์สุดมันส์ของการท่องเที่ยวแบบผจญภัยเชิงอนุรักษ์ได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ การล่องแพพะโต๊ะเชิงอนุรักษ์ บริเวณแม่น้ำพะโต๊ะ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวที่เปิดประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงความงดงามทางธรรมชาติ และลิ้มรสอร่อยกับเมนูพื้นบ้านอาหารพื้นเมือง ซึ่งสอดคล้องกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่เป็นการผสมผสานระหว่างกิจกรรมการท่องเที่ยวและวิถีชีวิตของชุมชนลุ่มน้ำพะโต๊ะ นอกจากนั้นสามารถเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวกับกลุ่มโฮมสเตย์บ้านคลองเรือ ซึ่งมีกิจกรรมท่องเที่ยวในชุมชนที่น่าสนใจ อาทิ เดินป่าศึกษาธรรมชาติเขานมสาวที่ได้ขึ้นชื่อว่า ดินแดนแห่งสามทะเล ได้แก่ กลางคืนแลทะเลดาว ตื่นเช้าแลทะเลหมอก แดดออกแลทะเลป่า นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมชมสวนผลไม้ ไร่กาแฟ ล่องแพ ดูนกอีกด้วย ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทำการปกครองอำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร โทรศัพท์ 0 7753 9040, 0 7753 9204 หรือ ททท. สำนักงานชุมพร โทรศัพท์ 0 7750 1831-2 , 0 7750 2775-6

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

13. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
เขาใหญ่
          ด้วยความที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก บวกกับความงดงามทุกช่วงฤดูกาล จึงทำให้ชื่อของ "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานานาชนิด ตลอดจนมีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม มักจะติดอันดับต้น ๆ ในการมองหาที่เที่ยวหน้าฝน เพราะนักท่องเที่ยวนิยมมาชมความสวยงาม พร้อมกับสูดอากาศแสนบริสุทธิ์ ยิ่งฤดูฝนด้วยแล้ว ป่าไม้และทุ่งหญ้าจะเขียวขจี แถมน้ำตกทุกแห่งในพื้นที่ ทั้งน้ำตกเหวนรก, น้ำตกเหวสุวัต, น้ำตกผากล้วยไม้ และน้ำตกกองแก้ว ยังไหลแรงส่งเสียงดังสนั่นก้องผืนป่า อากาศเย็นสบาย เงียบสงบ เหมาะแก่การเดินทางไปพักผ่อน อีกทั้งบริเวณใกล้ ๆ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงที่พักเก๋ ๆ ให้เลือกอีกเพียบ
สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

14. ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตแห่งปี 2556
          ม่อมแจ่ม ตั้งอยู่บนสันเขาบริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย อำเภอแม่ริม อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 40 นาที  ที่นี่มีลักษณะเด่น คือ อากาศเย็นสบายตลอดปี มีหมอกยามเช้า ช่วงที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยว และมีจุดชมวิวสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ทิวภูเขาสลับกันไกลสุดลูกหูลูกตา อีกด้านเป็นแปลงปลูกพืชและไม้เมืองหนาวของโครงการหลวง ยอดเขาทางทิศตะวันออกมีจุดชมวิวม่อนล่อง เหมาะสำหรับชมทิวทัศน์ของพื้นที่โครงการหลวง เป็นจุดชมทะเลหมอกบนหน้าผา มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล ทางด้านทิศใต้เป็นไหล่เขามองลงไปจะเห็นหมู่บ้านม้งหนองหอย และพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยโดยรอบ ซึ่งเป็นแปลงปลูกผักและวิจัยพืชผักเมืองหนาว นอกจากนี้ บริเวณบนม่อนแจ่มยังมีร้านอาหาร ที่เปิดให้สามารถปรุงอาหารโดยใช้ผลิตผลท้องถิ่นที่ปลูกเอง รวมทั้งมีที่พักในลักษณะแคมปิ้ง รีสอร์ท อีกด้วย

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com
15. ทุ่งแสลงหลวง จังหวัดเพชรบูรณ์
ทุ่งแสลงหลวง

ภาพจาก ททท.

          ทุ่งแสลงหลวง มีพื้นที่ 789,000 ไร่ ตั้งอยู่ในท้องที่จังหวัดพิษณุโลกและเพชรบูรณ์ ถือเป็นแหล่งผืนป่าสะวันนาแห่งเดียวของภาคเหนือที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ พร้อมด้วยความแตกต่างแห่งพืชพรรณที่ไม่พบเห็นบ่อยนัก นอกจากนี้ ยังเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อน เป็นต้นน้ำลำธารหลายสายที่ไหลลงสู่แม่น้ำน่าน สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวสามารถขอข้อมูลเดินทางศึกษาธรรมชาติ รวมทั้งใช้บริการที่พักและกางเต็นท์พักแรมได้จากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ส่วนแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ ได้แก่ น้ำตกต่าง ๆ บนเส้นทางสายพิษณุโลก-หล่มสัก เช่น น้ำตกแก่งโสภา, น้ำตกวังนกแอ่น ส่วนพื้นที่ทางด้านตะวันออกและตอนกลางของอุทยานฯ ในเขตอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นบริเวณป่าสนและทุ่งหญ้าสะวันนา ได้แก่ ทุ่งแสลงหลวง ทุ่งพญา ทุ่งโนนสน ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปเดินป่าและกางเต็นท์พักแรม สามารถติดต่อได้ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ สล.8 (หน่วยฯ หนองแม่นา)

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

16. บ้านแม่กลางหลวง จังหวัดเชียงใหม่
ที่เที่ยวหน้าฝน

ภาพจาก ททท. 

          บ้านแม่กลางหลวง ตั้งอยู่บนดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวกระเหรี่ยงเผ่าปกาเกอะญอ ในฤดูฝนบ้านแม่กลางหลวงจะเขียวขจีไปด้วยทุ่งนาขั้นบันได ลดหลั่นเป็นขั้น และยังมีกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติหลากหลายเส้นทาง อาทิ เส้นทางเดินป่าดอยหัวเสือ เส้นทางดูนกห้วยน้ำขุ่น และเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาเสี่ยว เหมาะสำหรับผู้รักธรรมชาติที่ต้องการความเงียบสงบและเรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้าน

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

17. อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่
          อำเภอกัลยาณิวัฒนา เป็นอำเภอที่ 878 ของประเทศไทย แยกตัวออกจากอำเภอแม่แจ่ม อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 136 กิโลเมตร อำเภอนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงรักธรรมชาติ ชื่นชอบวิถีชีวิต และต้องการพักผ่อนในบรรยากาศสบาย ๆ อีกทั้งฤดูฝนยังมีมนต์เสน่ห์ชวนให้หลงใหลกับนาขั้นบันไดเขียวชอุ่ม ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น วัดจันทร์ เป็นวัดที่สันนิฐานว่ามีอายุเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยละว้า (ลั๊วะ) ที่อพยพมาจากเชียงใหม่เมื่อ 300 ปี ก่อน, อ่างเก็บน้ำห้วยอ้อ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ทัศนียภาพสวยงาม เป็นแหล่งตกปลาตามธรรมชาติ, ศูนย์ศิลปาชีพบ้านวัดจันทร์ เป็นสถานที่ฝึกอบรมการทอผ้าและการส่งเสริมอาชีพราษฎรในพื้นที่ และศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ ที่มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เลือกทำมากมาย ดูเพิ่มเติมได้ที่ thairoyalprojecttour.com

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

18. แก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี
ที่เที่ยวหน้าฝน

ภาพจาก ททท. 

          แก่งหินเพิง ตั้งอยู่ที่ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ที่สวยงามอยู่ในลำน้ำใสใหญ่ ซึ่งมีลักษณะทางธรณีวิทยา เป็นชั้นหินทราย อยู่ในเขตความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 9 (ใสใหญ่) โดยภายในอำเภอนาดี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่เหมาะแก่การล่องเรือยางที่ท้าทายและสนุกสนาน ในช่วงฤดูฝนราวเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงที่มีปริมาณน้ำหลากล้นแก่ง และไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ เหมาะสำหรับการล่องแก่งผจญภัยเป็นอย่างมาก สำหรับการล่องแก่งนั้นจะผ่านแก่งกินต่าง ๆ  ได้แก่ แก่งหินเพิง, แก่งวังหนามล้อม, แก่งวังบอน, แก่งลูกเสือ, แก่งวังไทร และแก่งงูเห่า ใช้แพยางนั่งได้ประมาณ 8-10 คน ล่องไปตามลำน้ำใสใหญ่ ผู้ประกอบการจะพานักท่องเที่ยวไปยังบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ 9 (ใสใหญ่) และเดินป่าไปยังต้นน้ำ ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที จากนั้นจะเริ่มล่องแก่งมายังจุดสุดท้ายบริเวณ ขญ.9 ใช้เวลาล่องแก่งประมาณ 30 นาที นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อบริษัทนำเที่ยวที่จัดกิจกรรมในการล่องแก่งหินเพิงได้

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

19. สวนผึ้ง ราชบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตแห่งปี 2556
          อำเภอสวนผึ้ง ไม่ใช่เพียงแค่ฤดูหนาวเท่านั้นที่สามารถไปเที่ยวได้ เพราะที่นี่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ในทุกช่วง โดยเป็นอีกอำเภอหนึ่งที่มีภูมิทัศน์สวยงามท่ามกลางขุนเขาสลับซับซ้อนบริเวณชายแดนแถบตะวันตกของประเทศ สวนผึ้งสมัยก่อนเป็นแหล่งทำแร่ แต่ต่อมาที่นี่ได้กลายเป็นแหล่งรวมรีสอร์ทหลากรูปแบบ ที่ตกแต่งอย่างมีสไตล์ นอกจากนี้ ที่สวนผึ้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าแวะชมมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านภโวทัย ที่ เป็นลักษณะเป็นเรือนไทยประยุกต์ที่จัดแสดงวัตถุโบราณ สิ่งของเครื่องใช้ในอดีต, บ้านหอมเทียน, อัลปาก้าฮิลล์ สวนผึ้ง และตลาดน้ำสวนผึ้ง Veneto ฯลฯ

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

20. เทศกาลผลไม้ภาคตะวันออก
จันทบุรี
          นอกจากภาคตะวันออกที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามแล้ว อีกหนึ่งเทศกาลท่องเที่ยวในช่วงปลายฤดูร้อนต้นฝนก็คงเป็นเทศกาลชมผลไม้รสเลิศนานาชนิด ที่ทุกคนต่างรอคอยที่จะเดินทางไปลิ้มรสชิมความอร่อยของผลไม้สด ๆ จากต้น ภายในบรรยากาศสบาย ๆ ของสวนผลไม้ ที่เป็นของดีขึ้นชื่อของภาคตะวันออก ตามโครงการ "อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน Fruits Festival 2557" ที่นอกจากนักท่องเที่ยวไปชิมผลไม้สด ๆ จากต้น ซึ่งมีทั้งทุเรียน, เงาะ, สละ, ลองกอง, มังคุด และแก้วมังกร เป็นต้น แล้วยังสามารถเรียนรู้วิถีชีวิตแบบชาวสวนได้อีกด้วย ตั้งแต่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมของทุกปี ผลไม้ของภูมิภาคแห่งชายทะเลตะวันออกของไทย โดยถือเป็นโครงการที่ดีในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาคตะวันออก

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com

ที่มา : kapook

>>ที่พักปลอดภัย เลือกได้ตามสไตล์คุณ "http://happytripbooking.com"

>>จองก่อน จ่ายทีหลัง แถมยกเลิกฟรีเมื่อไม่พัก

>>ที่พักกว่า 687,664 แห่ง ใน 214 ประเทศ ทั้งโรงแรม เก็ทเฮ้าท์ และอื่น ๆ อีกมากมาย

>>สมัครฟรี และจัดการจองออนไลน์ได้ง่ายด้วยตัวคุณเอง

Wednesday 12 August 2015

ททท. เชิญแข่งขันจักรยานเสือภูเขา “เขื่อนภูมิพลเสือภูเขานานาชาติ” ครั้งที่ 14 ประจำปี 2558

กฟผ. ร่วมกับ ททท. กกท. และจังหวัดตาก ขอเชิญร่วมแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงถ้วยเกียรติยศประดับตราสัญลักษณ์ฉลอง สิริราชสมบัติครบ 60 ปีครองราชย์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงาน “เขื่อนภูมิพลเสือภูเขานานาชาติครั้งที่ 14 ประจำปี 2558” วันที่ 29-30 สิงหาคม 2558 ณ เขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก 29-30 สิงหาคม 2558





 


          การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และจังหวัดตาก ขอเชิญร่วมแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงถ้วยเกียรติยศประดับตราสัญลักษณ์ฉลอง สิริราชสมบัติครบ 60 ปีครองราชย์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงาน “เขื่อนภูมิพลเสือภูเขานานาชาติครั้งที่ 14 ประจำปี 2558” ในวันที่ 29-30 สิงหาคม 2558 ณ เขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก
          กิจกรรมหลัก ได้แก่
          วันที่ 28 สิงหาคม 2558
          - จักรยานรณรงค์ (ออกกำลังกายวันนี้สุขภาพดีเพื่อพ่อ) จุดปล่อยตัว : หน้าสำนักงาน ททท. สำนักงานตาก เส้นทางรอบตัวเมืองตาก ปล่อยตัวเวลา 15.00 น.
          วันที่ 29 สิงหาคม 2558
          - จักรยานเสือภูเขาทางไกลเฉลิมพระเกียรติ ระยะทาง 60 กิโลเมตร เส้นทางจังหวัดตากสู่เขื่อนภูมิพล (ปล่อยตัวเวลา 08.00 น. ณ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช)
          - จักรยานเสือภูเขาประเภทครอบครัว ระยะทาง 18 กิโลเมตร (ปั่นจักรยาน 3 รอบ รอบละ 6 กิโลเมตร) สถานที่แข่งขัน : สนามแข่งขันภายในบริเวณเขื่อนภูมิพล (ปล่อยตัวเวลา 13.00 น.)
          - จักรยานเสือท่องเที่ยว เสือคู่รัก เสือหมู่ (ทีม ๆ ละ 2 คน และ 3 คน ) ระยะทาง 12 กิโลเมตร สถานที่แข่งขัน : เส้นทางถนนลาดยางภายในบริเวณเขื่อนภูมิพล ขึ้นสันเขื่อน กิจกรรมหา RC ตามเส้นทางและเล่นเกมส์ ตามจุดที่กำหนด (ปล่อยตัวเวลา 14.00 น.)
          วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2558
          - จักรยานเสือภูเขานานาชาติ ระยะทาง 36 กิโลเมตร (ปั่น 3 รอบ รอบละ 12 กิโลเมตร) สถานที่แข่งขัน : สนามแข่งขันภายในบริเวณเขื่อนภูมิพล 
(ปล่อยตัวเวลา 08.00 น.) 
          - จักรยานเสือภูเขาสมัครเล่น (เสือภูเขาผู้ชายและเสือภูเขาผู้หญิง) ระยะทาง 20 กิโลเมตร (ปั่น 2 รอบ รอบละ 10 กิโลเมตร) สถานที่สนามแข่งขันภายในบริเวณเขื่อนภูมิพล (ปล่อยตัวเวลา 08.00 น.)
          กิจกรรมเสริม
          - ปั่นจักรยานท่องเที่ยวชมบรรยากาศรอบเขื่อนภูมิพล
          - Mini concert ติ๊ก ชีโร่ และเพื่อนๆ
          - เลือกจับจ่ายซื้อหาและซ่อมแซมจักรยานเสือภูเขาจากร้านผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์มากมายในราคาสุดพิเศษ 
          - จำหน่ายสินค้า OTOP ชั้นนำ จากตำบลต่าง ๆ ในเขตจังหวัดตาก 
          - จำหน่ายอาหารเครื่องดื่มและดนตรีโฟล์คซอง จากเยาวชนเขื่อนภูมิพล ในช่วงเย็น
          ค่าสมัคร
          - ประเภทแข่งขันเสือภูเขานานาชาติ 400 บาท ได้รับเสื้อและเหรียญที่ระลึก
          - ประเภทเสือภูเขาทางไกล 400 บาท ได้รับเสื้อและเหรียญที่ระลึก
          - ประเภทครอบครัว 400 บาท ได้รับเสื้อและเหรียญที่ระลึก จำนวน 2 ชุด
          - ประเภทเสือภูเขาท่องเที่ยว ไม่เสียค่าสมัครและไม่ได้เสื้อและเหรียญที่ระลึก
          นางสาวธมลวรรณ เรืองขจร ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานตาก ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าการแข่งขันจักรยานเสือภูเขานานาชาติมีการจัดต่อเนื่อง ทุก ๆ ปี และปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 14 แล้ว ได้รับความนิยมแพร่หลายในหมู่นักปั่นจักรยาน และผู้รักสุขภาพมากมาย มีนักปั่นที่คุ้นเคยและหน้าใหม่ ๆ เพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี ด้วยทัศนียภาพของเขื่อนภูมิพลที่สวยงาม ซึ่งนอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้วยังได้รับความสุขจากการปั่นจักรยานบนเส้นทาง ท่องเที่ยวนี้ด้วย เพราะนักปั่นจักรยานจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนจังหวัดตากได้อย่างใกล้ชิด และความพิเศษของการเข้าร่วมงานนี้ ยังถือเป็นงานที่รวมพลังคนรักษ์โลก เป็นการรวมพลังหัวใจสีเขียวในการช่วยกระตุ้นกระแสการท่องเที่ยวด้วยการปั่น จักรยานในช่วงกรีนซีซั่น (Green Season) ได้เป็นอย่างดี จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมเป็นอีกหนึ่งพลังในการปลุกกระแส “การท่องเที่ยววิถีไทย” ด้วยกิจกรรมดี ๆ เช่นนี้ด้วยกัน
          สำหรับการเดินทาง จากกรุงเทพ ฯ ตามถนนทางหลวงหมายเลข 1 เข้าสู่จังหวัดตากมุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ ถึงอำเภอสามเงา แยกซ้ายมือเข้าสู่เขื่อนภูมิพล 




  ติดต่อสอบถามข้อมูลและเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงก่อนเดินทางได้ที่การท่อง เที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตาก เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. โทรศัพท์ 0 5551 4341-3 อีเมล์ tattak@tat.or.th 
          หรือดาวน์โหลดข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/taktravel 
          - ฝ่ายประชาสัมพันธ์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โทรศัพท์ 0 2436 4822, 0 2436 4864
          - แผนกประชาสัมพันธ์เขื่อนภูมิพล โทรศัพท์ 0 5554 9510
          - เรือนรับรองเขื่อนภูมิพล (สำหรับจองห้องพัก) โทรศัพท์ 0 5554 9509, 0 5559 9093 ต่อ 4001, 4002
          - ประธานชมรมจักรยานเขื่อนภูมิพล โทรศัพท์ 08 1283 3775
          - www.bhumiboldam.egat.com
ที่มา :ททท.
สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com/

>>ที่พักปลอดภัย เลือกได้ตามสไตล์คุณ”http://happytripbooking.com/

>>จองก่อน จ่ายทีหลัง แถมยกเลิกฟรีเมื่อไม่พัก

>>ที่พักกว่า 687,664 แห่ง ใน 214 ประเทศ ทั้งโรงแรม เก็ทเฮ้าท์ และอื่น ๆ อีกมากมาย

>>สมัครฟรี และจัดการจองออนไลน์ได้ง่ายด้วยตัวคุณเอง
 

Monday 10 August 2015

อัพเดต!!! รายชื่อ 28 ประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยเข้าไปไม่ต้องใช้วีซ่า

สำหรับคนไปนอก เผยชื่อ 28 ประเทศ ที่คนไทยไปไม่ต้องขอ ‘วีซ่า’ 

กรมการกงสุลประกาศรายชื่อ 28 ประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยเข้าไปไม่ต้องใช้วีซ่า แต่ละประเทศอนุญาตให้อยู่ได้จำนวนวันแตกต่างกัน

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2558 กรมการกงสุล ได้ประกาศรายชื่อ 28 ประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางไทย (พาสปอร์ตไทย) สามารถเดินทางไปประเทศนั้น ๆ ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้วการจะเดินทางไปประเทศไหน หาก 2 ประเทศไม่ได้ทำข้อตกลงในการยกเว้นร่วมกัน ประชาชนของประเทศทั้ง 2 จะต้องยื่นขอ "วีซ่า" ก่อนที่จะเข้าประเทศได้


สำหรับ 28 ประเทศมีผลตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.2558 เป็นต้นไป ดังนี้

1.อาร์เยนตินา ( 90 วัน )
2.บาห์เรน* (14 วัน )
3.บราซิล (90 วัน )
4.บรูไน* (14วัน )
5.กัมพูชา (14วัน )
6.ชิลี (90วัน)
7.เอกวาดอร์* (90วัน )
8.จอร์เจีย* (90วัน)
9.ฮ่องกง (30วัน)
10.อินโดนีเซีย* (30วัน )
11.ญี่ปุ่น* (15วัน)
12.สาธารณรัฐเกาหลี (90วัน )
13.ลาว (30วัน)
14.มาเก๊า (30วัน)
15.มองโกเลีย (30วัน )
16.มาเลเซีย* (30วัน )
17.มัลดีฟส์* (30วัน )
18.เมียนมา (14วัน ) เริ่มวันที่ 11 สิงหาคม 2558 เป็นต้นไป
19.ปานามา* (180วัน )
20.เปรู (90วัน)
21.ฟิลิปปินส์* (30วัน )
22.รัสเซีย (30วัน)
23.เซเซลส์* (30วัน )
24.สิงคโปร์* (30วัน )
25.แอฟริกาใต้* (30วัน )
26.ตุรกี* (30วัน)
27.วานูอาตู* (90วัน )
28.เวียดนาม (30วัน ) 
หมายเหตุ ประเทศที่มีเครื่องหมาย * หมายถึงประเทศที่ประกาศยกเว้นการตรวจลงตราแก่ไทยฝ่ายเดียว ที่เหลือนอกจากนั้นคือประเทศที่ทำความตกลงทวิภาคีกับไทย 

ที่มา : มติชนออนไลน์

สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com/

>>ที่พักปลอดภัย เลือกได้ตามสไตล์คุณ”http://happytripbooking.com/

>>จองก่อน จ่ายทีหลัง แถมยกเลิกฟรีเมื่อไม่พัก

>>ที่พักกว่า 687,664 แห่ง ใน 214 ประเทศ ทั้งโรงแรม เก็ทเฮ้าท์ และอื่น ๆ อีกมากมาย

>>สมัครฟรี และจัดการจองออนไลน์ได้ง่ายด้วยตัวคุณเอง

Sunday 2 August 2015

แนะนำที่พัก: U Place โคราช


ที่พักในเมืองนครราชสีมา ที่สะดวกสบายใกล้กับเดอะมอลล์โคราช

ห้องพักสะอาด พนักงานอัธยาศัยดี มีwifiฟรี


ต้องบอกเลยว่าหากไปวันหยุดห้องอาจต็มก่อน เพราะขาประจำที่นี้เยอะพอคว












สนใจจองที่พักได้ที่: http://happytripbooking.com/

>>ที่พักปลอดภัย เลือกได้ตามสไตล์คุณ”http://happytripbooking.com/

>>จองก่อน จ่ายทีหลัง แถมยกเลิกฟรีเมื่อไม่พัก

>>ที่พักกว่า 687,664 แห่ง ใน 214 ประเทศ ทั้งโรงแรม เก็ทเฮ้าท์ และอื่น ๆ อีกมากมาย

>>สมัครฟรี และจัดการจองออนไลน์ได้ง่ายด้วยตัวคุณเอง